วิม เผยน่าเจ็บปวด อิ๊งค์ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากคลิปเสียงที่โดนหักหลัง ทั้งที่ต้องการแก้ปัญหาชายแดน เจรจาหาข้อยุติ 2 ปท. ชี้การกระทำป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม กลายเป็นถูกร้องเอื้อประโยชน์เขมร
วันที่ 2 ก.ค.68 นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีว่า
การเจรจาเพื่อหาทางยุติความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ของผู้นำไทยและกัมพูชา กลับถูกอีกฝ่ายหักหลังอัดเสียง ก็น่าจะเจ็บปวดมากแล้ว เพราะความไว้ใจ เพียงเพราะต้องการให้ปัญหาเรื่องชายแดนได้รับการแก้ไข แต่กลับถูกศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ เพราะคลิปเสียงที่ถูกเขาหักหลัง มันเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งกว่า เพลงฝากรอยเท้าเอาไว้ของ พี่หนุ่ย อำพล เสียอีก
การกระทำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม ที่ต้องสู้รบและสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อ และอธิปไตยของชาติ กลายเป็นเรื่องที่ต้องถูกร้องว่า ขายชาติเอื้อประโยชน์เขมร สรุปแล้วคนไทยต้องการสงครามใช่มั้ยครับ?
ผมคิดว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามหรอกครับ เพราะเรายอมไม่ได้กับความเสี่ยงที่ต้องสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อและอธิปไตย แต่มันเป็นแค่ข้ออ้างของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่หยิบเอามาเรียกร้อง หาแนวร่วม เพื่อล้มล้างการปกครองและนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง
ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่หลายคนเคยเข้าใจว่า เป็นพรรคการเมืองคู่แข่ง ที่ต้องการจะล้มรัฐบาล เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการบริการประเทศนั้น วันนี้เราต้องมองกันใหม่แล้วครับ เพราะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกลายเป็นผู้นำประเทศข้างบ้าน ที่สามารถจูงจมูก คนในประเทศไทยให้วิ่งตามความเห็นของเขาได้อย่างง่ายดาย
แค่เขาโพสต์คำสั่งหรือข้อความในสื่อโซเซียล คนในสังคมและหลายองค์กร ก็รีบขยายความ รีบปฏิบัติตามทันที มันเป็นเรื่องที่แปลกและคาดไม่ถึงที่สุดว่า แกนนำขับไล่รัฐบาล มันไม่ใช่คนในชาติด้วยกันซะแล้ว แต่มวลชนคนไทยด้วยกัน กลับไปทำตามความต้องการของผู้นำเขมร ที่คนโบราณเคยพูดติดปากกันมาถึงทุกวันนี้ว่า “บางคน คบได้แค่เช้า ชั่วเพล“ คงไม่ต้องขยายความนะครับว่า เช้าดี บ่ายไม่ดี
ต่อจากนี้ไป เราๆ ท่านๆ ที่มองความเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ต้องจับตาดูว่า ผู้นำเขมรจะสั่งการอะไรอีกเพราะสถานการณ์มันคงไหลไปตามนั้น