สรุปปม #JusticeForZara นักเรียนหญิง ม.1 มาเลเซียเสียชีวิต สั่นสะเทือนวงการการเมือง
นับเป็นข่าวที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งมาเลเซีย กับการเสียชีวิตของ ซาร่า ไกรีนา มหาธีร์ นักเรียนสาวม.1 วัย 13 ปี ที่เสียชีวิตหลังถูกพบหมดสติใกล้กับท่อระบายน้ำ หอพักของเธอ เมื่อ 04.00น. ของวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในหอพักโรงเรียนประจำศาสนาในเมืองปาปาร์ รัฐซาบาห์ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลควีนอลิซาเบธ 1 เมืองโกตาคินาบาลู ในวันรุ่งขึ้น
การเสียชีวิตของซาร่า จุดกระแสให้ทั่วประเทศเดือดดาล เนื่องจากเชื่อมโยงไปถึงกรณีการบูลลี่ และมีการกล่าวหาว่ามีบุคคลสำคัญต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง มีรายงานว่าเธอถูกฝังโดยไม่ได้ชันสูตร ทั้งยังมีข่าวลือว่าเธอถูกปั่นในเครื่องซักผ้า แต่กรณีดังกล่าวก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างคาดเดา
จนกระทั่ง ทนายความได้ออกมาแถลงการณ์ว่า วิดีโอที่แพร่สะพัดทางออนไลน์ ว่ามีหญิงคนหนึ่งเล่าว่าซาร่าถูกใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้า เป็นแค่การคาดเดา แม่ของซาร่า ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวกับใคร เราต้องการให้หญิงคนนี้ให้ข้อมูลแก่ตำรวจเพื่อดำเนินการสืบสวน
“ใครก็ตามที่เผยแพร่หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวทางออนไลน์ เราขอเรียกร้องให้คุณลบข้อมูลดังกล่าวออกทันที” ทนายความกล่าว
กรณีดังกล่าว ก่อให้เกิดการเรียกร้องความยุติธรรมและความโศกเศร้าอย่างกว้างขวางภายใต้แฮชแท็ก #JusticeForZara
ภาพจาก the star
อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุด ได้กล่าวว่า จำเป็นที่จะต้องขุดศพขึ้นมาเพื่อชันสูตรพลิกศพนักเรียนหญิงรายนี้ หลังจากนั้น จึงได้ขุดศพขึ้นมาและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรศพ ก่อนที่จะถูกฝังใหม่ที่สุสานมุสลิม Tanjung Ubi ที่ Kampung Mesapol ใน Sipitang ห่างออกไปประมาณ 130 กม.
สำหรับกรณีเศร้านี้ เริ่มต้นเมื่อ 16 กรกฎาคม ซาร่า นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียน Sekolah Menengah Kebangsaan Agama (SMKA) ถูกพบว่าหมดสติช่วงเวลา ตี 3-ตี 4 ในครั้งแรก เชื่อว่าเธอตกลงมาจากชั้น 3 ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังส่งเธอไปรักษาที่โรงพยาบาล
18 กรกฎาคม ร่างของซาร่า ถูกเตรียมนำไปฝังที่โรงพยาบาลโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ โนราอิดาห์ ลามัต มารดาของเธอ บอกว่า เธอเห็นรอยฟากช้ำที่หลังของลูกสาว ระหว่างทำพิธีอาบน้ำ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ไม่ได้รายงานให้ตำรวจทราบในตอนแรก ข้อกล่าวหาทางโซเชียลมีเดียที่ไม่ได้รับการยืนยันกล่าวหาว่าซาร่าถูกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายกลั่นแกล้งและกล่าวหาเจ้าหน้าที่โรงเรียนว่าปกปิดความจริง
ฟาดห์ลิน่า ซิเด็ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และอนุญาตให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปโดยไม่มีการแทรกแซง
ซาร่า และ แม่ ภาพจาก sinarharian
21 กรกฎาคม โนราอิดาห์ ลามัต มารดาของซาร่า เรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของลูกสาวอย่างโปร่งใส เป็นธรรม เธอบอกว่า ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นลูกคือระหว่างกิจกรรมของโรงเรียนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม
ต่อมาเวลา 28 กรกฎาคม ผู้บัญชาการการตำรวจซาบาห์ ได้ออกมาบอกว่า กำลังมีการสืบสวนอย่างละเอียดจากทุกฝ่าย และ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและหลีกเลี่ยงการคาดเดา
30 กรกฎาคม ครอบครัวของซาร่าได้ยื่นรายงานตำรวจฉบับแรก โดยส่งบันทึกสนทนาระหว่างซาร่าและแม่ ความยาว 44 วินาที ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีการตกจากที่สูงโดยไม่ตั้งใจ และขอให้มีการขุดศพขึ้นมาชันสูตร ทั้งยังได้มีกระแสบุคคลสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องได้แพร่กระจายออกไป หลายคนได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว รวมไปถึง มุสตาฟา ซักมุด รัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษา ที่ออกมาปฏิเสธ รวมทั้งภรรยา ที่เป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย
จากนั้น 2 สิงหาคม ดาทุก เซอรี ไซฟุดดิน นาซูตัน อิสมาอิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศว่า ตำรวจได้เสร็จสิ้นการสอบสวนเบื้องต้นแล้วและได้ยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสำนักงานอัยการสูงสุด (AGC) ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลการขุดศพหรือชันสูตรพลิกศพต่อสาธารณะ
มีรายงานว่า มีการบันทึกคำให้การของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 60 ราย
3 สิงหาคม โนราอิดาห์ ได้ยื่นรายงานตำรวจเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้ ได้ระบุรายละเอียดอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรอยฟกช้ำที่เธอเห็นบนหลังซาร่า และ เรียกร้องให้ตำรวจเปิดคดีอีกครั้งและขุดศพมาตรวจสอบ
7 สิงหาคม แม่ของซาร่า ได้มอบโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกเสียงสนทนาของเธอและลูกสาวให้ตำรวจ
จากนั้น 9 สิงหาคม ได้ดำเนินการขุดศพขึ้นมา ใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง จนเสร็จสมบูรณ์ในเวลา 19.31 น. ร่างของซาร่าถูกส่งต่อไปโรงพยาบาลควีนอลิซาเบธในเวลา 22.30 น. และ เริ่มชันสูตรในวันต่อมา โดยมี นักพยาธิวิทยา 4 คนทำการชันสูตรพลิกศพ รวมทั้งที่ปรึกษาทางนิติเวชศาสตร์ ทั้งมี ทนายความและตำรวจ 3 นาย สังเกตการณ์ชันสูตรที่นานกว่า 8 ชั่วโมง
กรณีดังกล่าว เป็นกระแสดังไปถึง อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ที่ออกมายืนยันว่า การเสียชีวิตของซาร่านั้น จะดำเนินการอย่างโปร่งใส ไม่มีการประนีประนอม ทั้งยังเรียกร้องให้ ประชาชนอย่านำคดีนี้ไปเล่นการเมือง หรือ นำไปคาดเดาจนสู่การใส่ร้ายป้ายสี
รวบรวมจาก Malaymail / freemalaysiatoday / The Star / NST / NST
